บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้รับลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จากเดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี (ประเทศสหรัฐอเมริกา) แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 โดยมียอดขายรวม 7,806 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดในรอบ 5 ปี และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึงร้อยละ13.6 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิรวม 598 ล้านบาท เติบโตจากปี 2565 ถึงร้อยละ 38.8 ผู้บริหารมั่นใจธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 ในอัตราร้อยละ 6-8 พร้อมลงทุนเพิ่ม 800 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจประเภทขวดแก้ว มุ่งสู่เป้าหมายยอดขาย 15,000 ล้านบาทในปี 2575
บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน “แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 และทิศทางธุรกิจปี 2567” ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ซึ่งมีคณะผู้บริหารนำโดย พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าร่วมงาน โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวมที่ 7,806 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี หรือสูงกว่าช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่ายอดขายที่เติบโตขึ้นเป็นอานิสงส์มาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคใต้ที่มีการฟื้นตัวเร็วกว่าภาคอื่นๆ ของประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการปรับราคาขายในบางขนาดในช่วงสิงหาคม 2565 และเมษายน 2566 ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ร้อยละ 6 และร้อยละ 1.5 ตามลำดับ
พลตรี พัชร รัตตกุล เปิดเผยว่า “ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว จากข้อมูลของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึงกว่า 28 ล้านคน หรือเติบโตจากปี 2565 ถึงร้อยละ 154 โดยถ้าดูจากสถิติการเข้าพักในโรงแรมและที่พักต่างๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว จะพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ภาคใต้สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ บริษัทฯ จึงใช้กลยุทธ์สร้างการเติบโตของรายได้ ผ่านการกำหนดขนาด รูปแบบผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่ายที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในช่องทางธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อที่มีการเติบโตของยอดขายสูงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็มีการปรับราคาขายขึ้นเล็กน้อย พร้อมทั้งเร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตควบคู่กันไป ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตสูงถึงร้อยละ 38.8”
สำหรับในปี 2567 พลตรี พัชรฯ มั่นใจว่าหาดทิพย์จะยังคงมียอดขายที่เติบโตขึ้นในอัตราร้อยละ 6-8 เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ภาคใต้ยังคงมีแนวโน้มที่สดใส และจากแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่โดนใจผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล ที่ในปี 2566 มียอดขายเติบโตถึงร้อยละ 31 และยังสามารถเติบโตขึ้นได้อีกมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาลยังคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 3 ของยอดขายทั้งหมดเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการลงทุนรวมอีกประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสายการผลิตของผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ชนิดขวดแก้ว ที่โรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคาดว่าจะเปิดสายการผลิตได้ก่อนไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของยอดขายในช่องทางโรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหาร ซึ่งบริษัทฯ มองว่านอกจากจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงเรื่องต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในระยะยาวแล้ว ยังสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ อีกด้วย
“เรามองว่าผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืนขวดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตตาคาร ซึ่งมีความเหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ เนื่องจากผู้บริโภคดื่มเครื่องดื่มของเราภายในร้าน (on-premise consumption) และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เรามีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่ง นอกจากนี้ การมีธุรกิจขวดแก้วที่แข็งแกร่งจะทำให้เราสามารถบริหารต้นทุนบรรจุภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเราอีกด้วย” พลตรี พัชรฯ กล่าวเสริม
สำหรับในระยะยาวนั้น พลตรี พัชรฯ กล่าวว่าบริษัทฯ มุ่งมั่นในการยืนหยัดเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยตั้งเป้าหมายมียอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท และมีมูลค่าส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮล์อย่างน้อยร้อยละ 35 ภายในปี 2575