ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน เราเริ่มได้เห็นข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับปัญหาความละเลยในด้านบริการหลังการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าต่างๆ “วินฟาสต์” ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้ามาเพื่อพลิกเกม โดยไม่เพียงนำรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงมาสู่ตลาด แต่ยังพรั่งพร้อมด้วยบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมเพื่อแก้ปัญหา “จิตตกเมื่อฝนตก” ให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าชาวไทย
ฝนตกน้ำท่วม ฝันร้ายของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ข่าวเรื่องราวอันไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ไฟฟ้าใหม่เอี่ยมที่จอดอยู่หน้าบ้านภายใต้สายฝนตกชั่วครู่ ซึ่งทำให้แบตเตอรี่ขัดข้อง และมีค่าซ่อมเกิน 1 ล้านบาท ได้สร้างกระแสความรู้สึกติดลบต่อการบริการหลังการขาย
ของผู้ผลิตรายหนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเฟื่องฟูในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับวินฟาสต์
ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ที่มุ่งเน้นความอุ่นใจและความพึงพอใจของลูกค้า
เป็นสำคัญ
“เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้น บริการจะเป็นส่วนสำคัญที่ “สร้างหรือทำลาย” ประสบการณ์การเป็นเจ้าของ” มร. คริส ซัตตั้น รองประธานฝ่ายธุรกิจยานยนต์ปลีกของเจดี พาวเวอร์ กล่าวเตือนไว้ในดัชนีบริการลูกค้า (CSI) ประจำปี 2023 ของสหรัฐอเมริกา ปัญหาด้านบริการนี้อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าและขัดขวางการเปลี่ยนผ่านสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสีเขียวที่กำลังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วนในประเทศไทย
วินฟาสต์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนามที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในตลาดบ้านเกิดจากปรัชญาธุรกิจที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง กำลังนำความมุ่งมั่นในการ “ผลิตรถยนต์คุณภาพเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล และบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม” มาสู่ประเทศไทย
ฮานา วู ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท วินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในประเทศไทย รวมถึงในตลาดอื่นๆ เราเน้นการนำเสนอคุณค่าให้กับลูกค้า และที่ วินฟาสต์ คุณค่าคือบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม”
บริการหลังการขายของวินฟาสต์: เจตจำนงอันกล้าหาญ
สำหรับรายละเอียดคร่าวๆ ของบริการหลังการขายของวินฟาสต์ในประเทศไทย หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือการรับประกันระบบส่งกำลัง 7 – 10 ปี หรือ ระยะทาง 160,000 – 200,000 กม. และการรับประกันแบตเตอรี่ นาน 8-10 ปี ระดับความคุ้มครองนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมั่นใจของวินฟาสต์ในผลิตภัณฑ์ของตน และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดประเทศไทย
ขณะเดียวกัน วินฟาสต์กำลังสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ครอบคลุม โดยมีแผนเปิดโชว์รูมประมาณ 30 แห่งในปีนี้ โดยเริ่มจากกรุงเทพมหานคร และขยายไปทั่วประเทศ เพื่อดูแลให้บริการลูกค้าชาวไทยที่ต้องเดินทางบ่อยๆ และเพื่อไม่ให้ลูกค้าเจอกับสถานการณ์รอซ่อมรถเป็นเวลานาน วินฟาสต์ให้ความสำคัญกับการจัดส่งอะไหล่ที่รวดเร็ว โดยสามารถจัดส่งได้ภายใน 24 ชั่วโมงในกรุงเทพมหานคร และภายใน 3 วันในพื้นที่อื่นๆ ตลอดจนรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานคุณภาพการบริการที่สูงผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายที่มีการฝึกอบรมเป็นประจำ และการตรวจสอบอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันอีกด้วย
“วินฟาสต์ จะมีอู่ซ่อมในโชว์รูมภายใต้โมเดล 3S (Sales, Services, Spare parts: การขาย การบริการ อะไหล่) ที่ไม่เพียงแค่เป็นโชว์รูมขายรถยนต์ เราต้องการให้ลูกค้าสามารถซ่อมรถยนต์ของตนได้ที่โชว์รูมที่ซื้อรถมา หรือหาอู่ซ่อมอื่นๆ ในจังหวัดที่เดินทางไปถึง เราเชื่อมั่นมากในนโยบายที่สร้างความแตกต่างให้กับวินฟาสต์เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ” ฮานา วู เสริม
สิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าคือความพร้อมของสถานีชาร์จ ซึ่งเป็นข้อพิจารณาหลักในการบริการหลังการขาย วินฟาสต์จึงร่วมมือกับ V-GREEN บริษัทชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งก่อตั้งโดย ฝ่าม เญิ้ต เวือง ผู้ก่อตั้ง วินฟาสต์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเครือข่ายสถานีชาร์จที่แข็งแกร่งให้บริการทั่วประเทศไทย
ความสำเร็จของบริการหลังการขายที่พิสูจน์แล้ว
เมื่อวินฟาสต์ประกาศเปลี่ยนสายการผลิตทั้งหมดไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อสองปีที่แล้ว บริษัทยังได้ขยายการรับประกันรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินจากห้าปีเป็นสิบปี ซึ่งเทียบเท่ากับการรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท และถือเป็นระยะเวลาการรับประกันที่ยาวนานที่สุดสำหรับรถยนต์รุ่น C เซ็กเมนต์ในตลาดเวียดนามในเวลานั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทุกคน รวมไปถึงลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นเก่าด้วย
ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดยานยนต์ของเวียดนามในไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 นี้ วินฟาสต์พร้อมแล้ว
ที่จะนำความมุ่งมั่นดังกล่าวทั้งหมดนี้มาสู่ประเทศไทย ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบระดับความมุ่งมั่นนี้กับกีฬาวิ่งแข่ง
ก็เรียกได้ว่าไม่ใช่เป็นการวิ่งระยะสั้น แต่เป็นการวิ่งมาราธอน