“ATTA x Lip Talk” แมทริกซ์ของกั้งตั๊กแตน By Lip Talk (Sarah K. Pedinotti)

by TeawFinKinShop

อัตตา แกลเลอรี่ มีความยินดีที่จะเปิดตัวโครงการ “ATTA x” ซึ่งเป็นโครงการประจำปีที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสสำหรับความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นกับศิลปิน และภัณฑารักษ์ที่อยู่นอกเหนือเครือค่ายการทำงานปกติของทางแกลเลอรี่ เพื่อขยายขอบเขต และนิยามใหม่ที่ว่าศิลปะนั้นสามารถสัมผัสและชื่นชมได้อย่างเป็นส่วนตัว โดยโครงการนี้เน้นการนำเสนอความน่าสนใจของวัสดุในงานศิลปะ ที่ผู้ชมจะสัมผัสได้ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้งห้า

โดยโครงการ “ATTA x” จะเป็นนิทรรศการเริ่มต้นของในแต่ละปี และในเดือนเมษายน 2568 นี้ ทาง อัตตา แกลเลอรี่จะมีการเปิดรับการนำแสนอโครงการจากศิลปินและภัณฑารักษ์ที่สนใจ โดยโครงการที่มีความโดดเด่นหนึ่งโครงการจะได้รับการคัดเลือกและนำมาจัดเป็นนิทรรศการที่มีระยะเวลา 1–1.5 เดือน ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2569 โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม!

เราตื่นเต้นและมีความยินดีที่จะเปิดตัวโครงการ “ATTA x” ครั้งแรกในปี 2568 ด้วย “ATTA x Lip Talk” ซึ่งเป็นความร่วมมือที่แปลกใหม่ ท้าทายมุมมองใหม่ๆ พร้อมทั้งกระตุ้นประสาทสัมผัสที่น่าสนใจ โดยนิทรรศการเปิดตัวนี้จะเป็นการปูแนวทางแห่งการทำงานเชิงนวัตกรรมและการสำรวจเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นหัวใจสำคัญของโครงการ “ATTA x”

ATTA x Lip Talkจะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ – 16 มีนาคม 2568 โดยงานเปิดนิทรรศการจะจัดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18:00–20:00 น. ซึ่งสามารถพบปะ พูดคุยกับศิลปินได้ในงานเปิดนิทรรศการ

แมทริกซ์ของกั้งตั๊กแตน

แมทริกซ์ของกั้งตั๊กแตน เป็นงานศิลปะจัดวาง (Installation) ที่กระตุ้นประสาทสัมผัสหลายด้าน เพื่อทำการสำรวจเรื่องราวที่เกี่ยวกับการรับรู้ เรื่องบรรพบุรุษของสิ่งมีชีวิต และการแสวงหาความหมาย ผ่านมุมมองของสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งที่สุดในธรรมชาติ หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของกั้งตั๊กแตนคือความสามารถในการมองเห็นแสงอัลตราไวโอเลต แสงอินฟราเรด และแสงโพลาไรซ์ ซึ่งทำให้มันรับรู้โลกที่เกินกว่าการมองเห็นของมนุษย์ นิทรรศการนี้ตั้งคำถามว่า: “การมองเห็นอย่างแท้จริงหมายความว่าอะไร?” และ “เราจะขยายการรับรู้ของเราได้อย่างไรที่ไม่ใช่แค่ทางชีววิทยา แต่เป็นทั้งในทางสร้างสรรค์ ที่เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของสิ่งมีชีวิต และจิตวิญญาณ?”

สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสัมผัสโลกผ่านกรอบการรับรู้ที่กำหนดโดยชีววิทยา สัญชาตญาณ และสิ่งแวดล้อม นักวิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่า Umwelt ซึ่งหมายถึงโลกแห่งการรับรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด การมองเห็นของกั้งตั๊กแตนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากมนุษย์ท้าทายให้เราจินตนาการถึงการดำรงอยู่ที่อยู่นอกเหนือ จากการรับรู้ของมนุษย์ แม้ว่าเราอาจไม่มีวันมองเห็นเหมือนกั้งตั๊กแตนได้ แต่ความพยายามในการแปลการรับรู้ผ่านงานศิลปะก็คือการกระทำที่แสดงออกถึงความรัก การพยายามก้าวข้ามขอบเขตของตัวเองและขยายขีดจำกัดของจินตนาการกลายเป็นการฝึกฝนวินัยในตัวเอง

เมื่อเราสำรวจสายสัมพันธ์ทางบรรพบุรุษกับกั้งตั๊กแตน เราเริ่มเข้าใจว่าการรับรู้ไม่ใช่เพียงการทำงานทางสรีรวิทยาเท่านั้น แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ถูกหล่อหลอมโดยการปรับตัวและการอยู่รอดมาหลายชั่วอายุคน ศิลปะกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลก เปิดโอกาสให้เรามองผ่านดวงตาที่เปี่ยมด้วยจินตนาการและเวทมนตร์ ก้าวเข้าสู่ความเป็นจริงที่อยู่นอกเหนือจากตัวเราเอง

นิทรรศการนี้เชิญชวนผู้ชมเข้าสู่ภูมิทัศน์ที่เหนือจริง ซึ่งผสมผสานศิลปะระดับสูงกับวัฒนธรรมป๊อป พร้อมด้วยอารมณ์ขัน วิทยาศาสตร์ และคำถามเชิงปรัชญาอันลึกซึ้งถึงแก่นแท้ แมทริกซ์ของกั้งตั๊กแตน คือการไตร่ตรองว่ามนุษย์ตีความโลกอย่างไร ศิลปะช่วยให้เราเข้าถึงสิ่งที่มองไม่เห็นได้อย่างไร และความรู้ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษสามารถเชื่อมโยงเรากับพลังที่อยู่เหนือการรับรู้ของมนุษย์ได้อย่างไร

สัมผัสประสบการณ์ในแมทริกซ์

ผู้เข้าชมจะได้โต้ตอบกับอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเฉพาะ ซึ่งออกแบบมาเพื่อจำลองการมองเห็นที่เป็นเอกลักษณ์ของกั้งตั๊กแตน และแปลงมันให้กลายเป็นเสียง เนื่องจากการรับรู้แสงของกั้งตั๊กแตนแตกต่างจากการมองเห็นของมนุษย์โดยพื้นฐาน เสียงอาจเป็นวิธีที่แม่นยำกว่าในการสัมผัสประสบการณ์การมองเห็นแบบหลายมิติของมัน—ไม่ใช่ในฐานะภาพนิ่ง แต่เป็นสนามข้อมูลที่สั่นสะเทือนและขยายตัว

ในนิทรรศการนี้ยังประกอบด้วยประติมากรรมแนวปะการังที่สร้างขึ้นจากขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งคลังข้อมูลและระบบนิเวศ ในฐานะคลังข้อมูล มันบันทึกเศษซากที่มนุษย์ทิ้งไว้ เบาะแสถึงผลกระทบของเราต่อมหาสมุทร ในฐานะระบบนิเวศ มันสะท้อนให้เห็นถึงวิธีที่สิ่งมีชีวิตปรับตัวและเปลี่ยนแปลง แม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรหรือที่มนุษย์สร้างขึ้น

สุดท้าย ดวงตาของกั้งที่ขยายใหญ่และเปล่งประกายหลากสี ถ่ายทอดเรื่องราวที่กระจัดกระจายจากส่วนลึกของมหาสมุทร ปลุกเร้าความรู้สึกของการปรากฏตัวที่ทั้งแปลกประหลาดและเก่าแก่ องค์ประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อท้าทายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับการรับรู้ ชวนให้ถามว่า: “มีอะไรอีกบ้างที่เรายังมองไม่เห็น?”

เหนือการมองเห็น: ศิลปะ ความเห็นอกเห็นใจ และสิ่งที่ไม่รู้จัก

ผ่านการเล่น การแสดงออกเชิงนามธรรม และความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งที่มองไม่เห็น แมทริกซ์ของกั้งตั๊กแตน สำรวจจุดตัดระหว่างวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และสิ่งที่ไม่รู้จัก เช่นเดียวกับมนุษย์ยุคแรกที่วาดภาพบนผนังถ้ำเพื่อทำความเข้าใจโลก นิทรรศการนี้พยายามส่องแสงสว่างให้กับความลึกลับที่อยู่นอกขอบเขตการรับรู้ของเรา—ไม่ใช่เพื่อตอบคำถาม แต่เพื่อเชิญชวนให้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งกับการมองเห็นในตัวมันเอง

นี่คือคำเชิญให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของ Umwelt ของเราเอง จินตนาการถึงประสบการณ์ของผู้อื่น และค้นหาความหมายในจินตนาการร่วมกันที่ทำให้ศิลปะและความเห็นอกเห็นใจเป็นไปได้

เกี่ยวกับศิลปิน

Sarah K. Pedinotti ที่มีชื่อในวงการว่า Lip Talk เป็นศิลปิน นักดนตรี และนักเล่าเรื่องที่ผลงานของเธอละลายเส้นแบ่งระหว่างเสียง การแสดง และทัศนศิลป์ ด้วยแนวทางการทดลองและโลกสร้างสรรค์ที่ชวนดื่มด่ำ งานของเธอมีรากฐานมาจากความอยากรู้อยากเห็น การเล่น และการสังเกตธรรมชาติและสิ่งเหนือจริงอย่างลึกซึ้ง แมทริกซ์ของกั้งตั๊กแตน คืองานติดตั้งขนาดใหญ่ครั้งแรกของเธอ ซึ่งขยายการสำรวจอย่างต่อเนื่องในด้านการรับรู้ อัตลักษณ์ และสิ่งที่มองไม่เห็น

เธอเคยร่วมงานกับศิลปิน เช่น Laraaji, Hayley Williams (Paramore), The Secret Machines และ Kalbells และยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันขอบเขตของการเล่าเรื่องเชิงศิลปะผ่านเสียง วิดีโอ และประสบการณ์เชิงโต้ตอบต่อไปในอนาคต

You may also like

Green House Media and Event Co.,Ltd.

252 Soi Lat Phrao 93, Lat Phrao Road,
Khlong Chaokhun Sing, Wang Thonglang,
Bangkok 10310

Contact us: news@joinalife.com

© 2024 TeawFinKinShop. All rights reserved. Design & Developed By : R Web Design